วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน "นวดเอวและหลัง"
เรียนรู้และฝึกฝนได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดายด้วย 14 ท่านวดเอวและหลัง ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ลดอาการเคล็ดขัดยอก ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ปรับสมดุลของฮอร์โมน กระตุ้นให้ระบบต่างๆ ทำงานดีขึ้นและผ่อนคลายความเครียด เพื่อสุขภาพที่ดีและอารมณ์ดี วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดเอวและหลัง ท่าที่ 1 "ลูบข้างลำตัว" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลัง• วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อยผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างวางไว้ข้างลำตัวของผู้ถูกนวดบริเวณช่วงเอว ให้นิ้วทั้งสี่อยู่ด้านข้างลำตัว นิ้วหัวแม่มือวางบนแผ่นหลัง ลูบจากเอว ขึ้นไปจนถึงใต้รักแร้ ลูบขึ้นไปอย่างช้า ๆ ออกแรงกดที่มือทั้งสองข้าง ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดเอวและหลัง ท่าที่ 2 "ลูบแนวกระดูกสันหลัง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างวางลงบนกระดูกสันหลังของผู้ถูกนวดบริเวณก้นกบ ใช้ปลายนิ้วทั้งสี่ (นิ้วหัวแม่มือ) สัมผัสกับส่วนที่นวด ลูบจากก้นกบ ขึ้นไปจนถึงท้ายทอย ลูบขึ้นไปอย่างช้า ๆ ออกแรงกดที่ปลายนิ้วทั้งสี่ทั้งสองข้าง ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดเอวและหลัง ท่าที่ 3 "ลูบกล้ามเนื้อหลัง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างวางลงบนหลังของผู้ถูกนวดบริเวณท้ายทอย ให้นิ้วหัวแม่มืออยู่ใกล้กับแนวกระดูกสันหลังห่างออกมาเล็กน้อย นิ้วทั้วสี่อยู่กลางหลังนิ้วชิดกัน ลูบจากท้ายทอยลงไปจนถึงก้นกบ ลูบลงไปอย่างช้า ๆ ออกแรงกดที่มือทั้งสองข้าง ทำสลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดเอวและหลัง ท่าที่ 4 "คลึงกล้ามเนื้อหลัง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลัง• วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดกางมือทั้งสองข้างออกให้กว้างที่สุด แล้ววางลงบนท้ายทอย ใช้นิ้วหัวแม่มือคลึงจากท้ายทอยลงมาตามแนวกล้ามเนื้อหลังจนถึงก้นกบให้กดน้ำหนักลงที่นิ้วหัวแม่มือทั้งสองข้าง คลึงจากท้ายทอยลงไปจนถึงก้นกบ คลึงลงไปอย่างช้า ๆ ทำสลับไปมาจากท้ายทอยลงไปจนถึงก้นกบแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดเอวและหลัง ท่าที่ 5 "คลึงแนวกระดูกสันหลัง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อคอ-หลัง ลดอาการเคล็ดขัดยอกจากการนอนตกหมอน • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างวางลงบนท้ายทอย ให้มือทั้งสองตั้งขึ้นนิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านบน ใช้มือทั้งสองคลึงจากท้ายทอยลงมาตามแนวกระดูกสันหลังจนถึงก้นกบให้ออกแรงกดโดยเหยียดข้อศอกให้ตรง เมื่อถึงก้นกบให้ลดแรงกด คลึงลงไปอย่างช้า ๆ ทำสลับไปมาจากท้ายทอยลงไปจนถึงก้นกบแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดเอวและหลัง ท่าที่ 6 "แยกกล้ามเนื้อหลัง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อทั้งสองข้างของกระดูกสันหลัง ช่วยยึดกล้ามเนื้อและผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดวางนิ้วมือทั้งสี่ให้อยู่ที่เอวด้านซ้ายใกล้กระดูกสันหลังบีบกล้ามเนื้อบริเวณเอว โดยใช้นิ้วหัวแม่มือบีบเข้าหานิ้วทั้งสี่ บีบกล้ามเนื้อจากเอวมาจนถึงท้ายทอยตามแนวกระดูกสันหลัง ทำสลับไปมาจากเอวจนไปถึงท้ายทอยแล้วจึงเปลี่ยนไปบีบเอวด้านขวา ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดเอวและหลัง ท่าที่ 7 "บิดกล้ามเนื้อปีก" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อไหล่และหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดวางมือทั้งสองข้างบนกล้ามเนื้อปีกด้านซ้าย โดยให้นิ้วทั้งสี่อยู่ด้านบน นิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านล่าง บีบแรง ๆ แล้วบิดกล้ามเนื้อขึ้น ๆ ลง ๆ แล้วคลายทำสลับกันไป แล้วจึงเปลี่ยนไปบิดกล้ามเนื้อปีกด้านขวาต่อไป ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดเอวและหลัง ท่าที่ 8 "ลูบเอว" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณเอวและหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้เนินฝ่ามือวางไขว้ให้ข้อมือหันเข้าหากันแล้ววางลงบนสะบักของผู้ถูกนวด ออกแรงกดแล้วลูบไปด้านตรงข้าม กดแล้วลูบกลับมาตำแหน่งเดิม ทำไล่ตั้งแต่บริเวณเอวจนถึงใต้รักแร้ สลับไปมาแล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดเอวและหลัง ท่าที่ 9 "บิดเอว" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณท้องและช่วยลดไขมันบริเวณเอว • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดวางมือทั้งสองข้างลงบนเอวด้านขวาของผู้ถูกนวด โดยให้นิ้วทั้งสี่แยกออกจากนิ้วหัวแม่มือ บีบกล้ามเนื้อบริเวณเอวให้แน่นแล้วบิดกล้ามเนื้อเอวไปมา โดยเริ่มบิดจากส่วนเอวจนถึงสะโพก บิดแล้วคลายทำสลับกันไป แล้วจึงเปลี่ยนไปบิดเอวด้านซ้ายต่อไป ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป
.........................................................................................................
วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดเอวและหลัง โฆษณา-ลิงก์ผู้สนับสนุน ......................................................................................................... ท่าที่ 10 "ดัดสะโพก" ช่วยยืดกล้ามเนื้อและผ่อนคลายกล้ามเนื้อสะโพก • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้มือซ้ายกดลงที่กระดูกสันหลังด้านล่างเอวเล็กน้อย มือขวาจับขาซ้ายของผู้ถูกนวดบริเวณเหนือหัวเข่าเล็กน้อย ให้ขาซ้ายของผู้ถูกนวดพาดลงบนข้อศอกขวาของผู้นวด ให้ดึงต้นขาของผู้ถูกนวดให้เหยียดไปทางด้านหลังและมือซ้ายกดลงที่กระดูกสันหลังด้านล่างเอว โดยให้ขาชี้ขึ้นจนลำตัวช่วงหลังแอ่นขึ้น โดยเริ่มดัดเบา ๆ ก่อนแล้วจึงค่อนเพิ่มแรงดัด ดัดแล้วคลายทำสลับไปมา แล้วจึงเปลี่ยนไปดัดสะโพกด้านขวาต่อไป ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดเอวและหลัง ท่าที่ 11 "สับหลังแนวกระดูกสันหลัง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างวางลงบนท้ายทอย ให้มือทั้งสิงตั้งขึ้น นิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านบน สันมือด้านนิ้วก้อยสัมผัสกับส่วนที่นวด สับมือทั้งสองข้างสลับกันไป จากท้ายทอยมาที่ไหล่ แล้วย้อนมาที่กลางหลังและให้สับลงมาตามแนวกระดูกสันหลังจนถึงก้นกบ แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดเอวและหลัง ท่าที่ 12 "สับหลังแนวขวางกระดูกสันหลัง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดใช้มือทั้งสองข้างวางลงบนท้ายทอย ให้มือทั้งสิงตั้งขึ้น นิ้วหัวแม่มืออยู่ด้านบน สันมือด้านนิ้วก้อยสัมผัสกับส่วนที่นวด สับมือทั้งสองข้างสลับกันไป จากก้นกบมาจนถึงท้ายทอยโดยสับขวางแนวกระดูกสันหลัง แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดเอวและหลัง ท่าที่ 13 "ปรบมือที่หลัง" ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณหลัง • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนคว่ำหน้าราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนรองใต้หน้าอก กางแขนออกเล็กน้อย ผู้นวดวางมือทั้งสองข้างลงบนไหล่ของผู้ถูกนวด โดยทำมือเป็นรูปสามเหลี่ยมพีระมิด ให้นิ้วทั้งสี่วางชิดกันกับนิ้วหัวแม่มือ ปรบมือบริเวณไหล่ผ่านหลังไปจนถึงก้นกบ ปรบมือสลับไปมา เวลาปรบจะมีเสียงเหมือนเสียงปรบมือ แล้วจึงเปลี่ยนเป็นท่าต่อไป วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดเอวและหลัง ท่าที่ 14 "ยืดและดึงหลัง" ช่วยยืดกล้ามเนื้อและผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังและสะโพก • วิธีการนวด ให้ผู้ถูกนวดนอนหงายราบกับพื้นหรือที่นอน ใช้หมอนหนุนรองศีรษะ วางแขนของผู้ถูกนวดขนานกับลำตัว ผู้นวดจับขาทั้งสองข้างของผู้ถูกนวด งอและพับขึ้นมาวางที่บนลำตัวดันเข่าให้ชิดกันมากที่สุด โดยเริ่มกดเบา ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มแรงกด กดแล้วคลายทำสลับไปมาสักครู่ เรียบเรียงบทความ "วิธีการนวดแผนโบราณขั้นพื้นฐาน-นวดเอวและหลัง" โดยกองบรรณาธิการwww.YesSpaThailand.com |
TH | EN หน้าหลัก รู้จักวัดโพธิ์ เกร็ดประวัติวัดโพธิ์ ตำนานพระพุทธรูปสำคัญ จารึกวัดโพธิ์ การบริหารงานวัดโพธิ์ อดีตเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน คณะสังฆาธิการ สถานศึกษาในวัดโพธิ์ ข่าวและกิจกรรม สถาปัตย์และสิ่งสำคัญ แพทย์แผนไทย โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดโพธิ์ การบริหารท่าฤาษีดัดตน อัลบั้มภาพ เว็บบอร์ด ข้อมูลนักท่องเที่ยว วางแผนการเยี่ยมชม การเดินทางมาวัดโพธิ์ ติดต่อ แพทย์แผนไทย > โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดโพธิ์ โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดโพธิ์ โรงเรียนแพทย์แผนโบราณ และการนวดแผนโบราณ การแพทย์แผนโบราณนั้นอาจกล่าวได้ว่ามีบุคคลผู้รอบรู้ประจำอยู่ทุกชมชน ที่รู้จักการเอาพืชสมุนไพรมาผสมผสานกับของผสมบางอย่างรวมกันแล้วเป็นยาบรรเทาอาการเจ็บป่วย ยาแก้โรคระบาดให้หายขาดได้ ในสังคมไทยสมัยโบราณมีแพทย์ ๒ ประเภท คือแพทย์ประจำราชสำนักหรือแพทย์หลวง กับแพทย์พื้นบ้านที่รักษาชาวบ้าน (หมอชาวบ้านหรือหมอชุมชน) สมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พระยาบำเรอราชแพทย์ ซึ่งเป...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น